ประกาศความเป็นส่วนตัว สำหรับกรรมการบริษัท

บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด มีความเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของกรรมการบริษัท และกรรมการชุดย่อย (“ท่าน”) ทั้งตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องจัดให้มีอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบ  บริษัทจึงได้กำหนดและประกาศความเป็นส่วนตัวในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้


1.     วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่ท่านเป็นกรรมการบริษัท กรรมการชุดย่อย และเป็นบุคคลที่อาจเป็นกรรมการบริษัท และกรรมการชุดย่อยมีความจำเป็นในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น โดยอาศัยฐานทางกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1.1 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น การบริหารจัดการ การเข้าทำธุรกรรม และ/หรือ การปฏิบัติตามสัญญากับลูกค้า คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ การสำรวจความคิดเห็น การปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัท เป็นต้น

1.2 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น การบันทึกการประชุม การบันทึกภาพ เสียง และ/หรือวีดีโอระหว่างการประชุม และจัดทำรายงานการประชุมเพื่อส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) การดำเนินงานเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรรมการของบริษัท และกรรมการชุดย่อย การส่งเอกสาร ระเบียบวาระการประชุม การเปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์บริษัท การเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิส์ เป็นต้น ให้กับบุคคลภายนอกได้รับทราบ การเปิดเผยและรายงานข้อมูลของกรรมการให้หน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ การตรวจสอบข้อมูลการมีส่วนได้เสียของกรรมการและบุคคลที่เกี่ยวข้องของกรรมการ รายการขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัท การจัดทำและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงข้อมูลประวัติกรรมการ เพื่อเป็นฐานข้อมูล และ/หรือการส่งข้อมูลให้หน่วยงานภายนอกเพื่อสมัครเข้าอบรมหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ได้เข้าร่วมในฐานะกรรมการบริษัท เพื่อเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการดำเนินการแต่งตั้ง จดทะเบียนเปลี่ยนแปลง หรือดำเนินการใดๆ ตามที่กฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่เกี่ยวของกำหนด

1.3 เพื่อการรักษาความปลอดภัยในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท การบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของบริษัท และการบันทึกภาพภายในบริษัทด้วยกล้อง CCTV

1.4 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อร่างกาย ชีวิตหรือสุขภาพของท่าน เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

1.5 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามความยินยอมซึ่งกรรมการได้ให้แก่บริษัทไว้ในแต่ละคราว

 

หากเจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา อาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว จนกว่าบริษัทฯ จะได้รับข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่สามารถประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นได้ หรือกฎหมายกำหนดห้ามมิให้มีการดำเนินธุรกรรมหรือกิจกรรมนั้นอีกต่อไป

2.     านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานการประมวลผลข้อมูลที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้

2.1      ฐานปฏิบัติตามสัญญา

2.2      ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย

2.3      ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

2.4      ฐานความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

2.5      ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ

3.     ประเภทและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้ท่านกรอกในเอกสารที่บริษัทได้จัดเตรียมไว้ หรือกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่บริษัทกำหนด และ/หรือวิธีการอื่นใด อย่างไรก็ตาม บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจากแหล่งอื่นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้     

3.1       ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

(1)     ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ภาพถ่าย เป็นต้น

(2)     ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามภูมิลำเนา หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล ข้อมูลเพื่อการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกซ์อื่นๆ เป็นต้น

(3)     ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลการถือหลักทรัพย์

(4)     ข้อมูลอื่นๆ เช่น ประวัติการทำงาน การศึกษา และการดำรงตำแหน่งกรรมการ ข้อมูลบุคคลอ้างอิง สมาชิกในครอบครัว ประวัติการฝึกอบรม

(5)     ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ

(6)     ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยบริษัท และ/หรือ ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น บันทึกภาพนิ่ง เสียง วิดีทัศน์ หรือภาพเคลื่อนไหว

3.2       ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

บริษัท ไม่มีความประสงค์ในการเก็บ รวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่บนหน้าบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน หากท่านมอบสำเนาบัตรประชาชนให้แก่บริษัท บริษัทขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าวก่อนส่งมอบให้กับบริษัท หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านยินยอมให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ

อย่างไรก็ตาม ในบางกิจกรรมที่บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวบางประการเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งหมายความรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โรคประจำตัว ข้อมูลที่ปรากฎบนใบรับรองแพทย์ อุณหภูมิร่างกาย ข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อ เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นไปเพื่อการอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทได้แจ้งไว้โดยเฉพาะในเอกสารขอความยินยอม และบริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าว

4.     ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามแนวปฏิบัติของข้อมูลแต่ละประเภท และหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะทำลายหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยวิธีการที่เหมาะสมตามที่บริษัทกำหนดต่อไป โดยบริษัทจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทยังมีความสัมพันธ์กับท่าน หรือระยะเวลาที่บริษัทยังมีการให้สิทธิประโยชน์แก่ท่าน และอาจเก็บรักษาต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย

ทั้งนี้ ในกรณีทั่วไปบริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทและภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งอีกไม่เกิน 10 ปี

5.     การเปิดเผยข้อมูล

ในการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้

5.1       บริษัทย่อยและบริษัทในเครือ ในการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้น

5.2       หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมสรรพากร เป็นต้น

5.3       ตัวแทน ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นต้น

5.4       ธนาคารหรือสถาบันการเงิน

6.     สิทธิของท่านในานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.1      สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

กรณีที่บริษัทขอความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ

6.2      สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้

6.3      สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้นั้นไม่ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้

6.4      สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้

6.5      สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคลล

ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้

6.6      สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นได้

6.7      สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

6.8        สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

7.     มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหน้าที่หรือโดยมิชอบ ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล มีกลไกควบคุมการเข้าถึง มีมาตรการด้านรักษาความมั่นคง ปลอดภัย และบริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการเป็นประจำเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทั้งทางกายภาพ ทางการบริหาร และทางเทคนิค

8.     ช่องทางการติดต่อกับบริษัทและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับคำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับกรรมการบริษัทฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิที่ปรากฏตามข้อ 6. โปรดใช้แบบฟอร์มการติดต่อบนเว็บไซต์ของบริษัท http://aeroflex.co.th หรือติดต่อผ่านทางผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด ได้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

8.1       ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล:บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด

•     เลขที่ 770 ถ.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270

•     โทร 02 383 6599

8.2       เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล:

•     เลขที่ 770 ถ.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปรากร 10270

•     อีเมล์ dpooffice@aeroflex.co.th 

•     โทร 02 383 6599

 

ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองส่วนบุคคลเพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิได้ตามรายละเอียดช่องทางการติดต่อข้างต้น ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดำเนินการ โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องดังกล่าว


ประกาศฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม  2565

ประกาศ ณ วันที่  27 กันยายน  2565